เคยไหม? ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ คุมอาหารอย่างเคร่งครัด แต่ไขมันบางจุดก็ยังไม่หายไปเสียที โดยเฉพาะไขมันดื้อรั้นอย่างบริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา หรือเหนียงใต้คาง ซึ่งเป็นปัญหาที่ทำให้หลายคนหมดกำลังใจในการดูแลรูปร่าง และนั่นคือเหตุผลที่หลายคนเริ่มหันมาสนใจทางเลือกใหม่อย่าง "การดูดไขมัน Vaser" ที่ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ไม่ต้องพักฟื้นนาน แถมยังเห็นผลลัพธ์ได้จริงในเวลาอันสั้น แล้วจริงๆ Vaser คืออะไร? เหมาะกับใครบ้าง? บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักการดูดไขมันแบบละเอียดทุกแง่มุมค่ะ

ดูดไขมัน Vaser คืออะไร?
Vaser ย่อมาจาก Vibration Amplification of Sound Energy at Resonance เป็นเทคโนโลยีดูดไขมันรูปแบบหนึ่งทีใช้ พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความถี่เฉพาะ เข้ามาช่วยสลายไขมันเฉพาะจุดอย่างแม่นยำ โดยจะเข้าไปแยกชั้นไขมันออกจากเนื้อเยื่อโดยรอบ ก่อนที่จะดูดออกด้วยเครื่องมือเฉพาะ ทำให้การดูดไขมันเป็นไปอย่างนุ่มนวลและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

แตกต่างจากการดูดไขมันแบบทั่วไปยังไง?
ต่างจากการดูดไขมันแบบดั้งเดิมที่ใช้แรงดูดโดยตรง ซึ่งอาจทำให้เกิดการบอบช้ำ ฟกช้ำ หรือเจ็บปวดมากกว่า Vaser จะมีจุดเด่นคือ:
• แม่นยำสูง: เลือกสลายเฉพาะเซลล์ไขมันโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง
• ลดการบวมช้ำ: เนื่องจากไม่ทำลายเส้นเลือดหรือเส้นประสาท
• ฟื้นตัวเร็วกว่า: กลับบ้านได้ภายในวันเดียว ไม่ต้องนอนพักที่โรงพยาบาล
• ผิวกระชับขึ้น: คลื่นเสียงช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว ลดโอกาสผิวหย่อนคล้อยหลังทำ

จุดยอดนิยมในการดูดไขมัน Vaser
แม้ว่า Vaser จะสามารถใช้ได้กับหลายส่วนของร่างกาย แต่จุดที่คนนิยมมากที่สุด ได้แก่:
• หน้าท้องและเอว: เพื่อให้เอวเอส หุ่นเข้ารูป
• ต้นแขนและต้นขา: ลดขนาดและทำให้เรียวขึ้น
• เหนียงใต้คาง: กรอบหน้าคมชัด ดูหน้าเล็กลง
• หลัง: ลบปีกหลังหรือไขมันสะสมที่ทำให้ใส่เสื้อไม่มั่นใจ
• น่องและเข่า: ช่วยให้ขาเรียวยาวแบบธรรมชาติ

ขั้นตอนการดูดไขมัน Vaser
1. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: เพื่อประเมินรูปร่าง ความเหมาะสม และวางแผนการดูดไขมัน
2. วาดตำแหน่ง: ระบุจุดที่ต้องการดูดไขมัน
3. ฉีดยาชาเฉพาะจุด: เพื่อให้รู้สึกสบายขณะทำ
4. สลายไขมันด้วยคลื่นเสียง Vaser เครื่องจะปล่อยคลื่นเสียงเข้าไปละลายไขมันให้กลายเป็นของเหลวก่อนดูดออก
5. ดูดไขมันออก: ใช้เครื่องดูดออกด้วยแรงดันต่ำ ลดการช้ำ
6. ใส่ชุดกระชับ: ช่วยให้รูปร่างเข้าที่เร็วขึ้น
กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 1–3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ

หลังทำต้องดูแลอะไรบ้าง?
แม้จะไม่ใช่การผ่าตัดใหญ่ แต่ก็ต้องใส่ใจเรื่องการดูแลตัวเองหลังทำเพื่อให้ผลลัพธ์ดีที่สุด เช่น:
• ใส่ชุดกระชับตามที่แพทย์แนะนำ
• หลีกเลี่ยงการออกแรงหนักในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
• ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยร่างกายขับของเสีย
• หลีกเลี่ยงของมัน ของหวาน หรือแอลกอฮอล์
• เข้ารับการนวดกระชับหรือทำทรีตเมนต์ตามคำแนะนำแพทย์

เหมาะกับใครบ้าง?
• คนที่มีรูปร่างปกติหรือมีน้ำหนักเกือบปกติ แต่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด
• คนที่เคยลดน้ำหนักแล้วแต่ยังมีบางจุดไม่กระชับ
• คนที่อยากเห็นผลไวโดยไม่ต้องพักฟื้นนาน
• คนที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ผิวไม่หย่อนคล้อยหลังทำ
หมายเหตุ: Vaser ไม่เหมาะกับคนที่อ้วนมาก หรือใช้เป็นวิธีลดน้ำหนักหลักนะครับ ควรใช้ร่วมกับการดูแลสุขภาพโดยรวม

ทำไม Vaser ถึงเป็นทางเลือกใหม่ที่คนนิยม?
เพราะ Vaser เป็นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ทั้งความปลอดภัย ความแม่นยำ และผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่อยากดูดีโดยไม่ต้องเจ็บตัวมากหรือเสียเวลาพักฟื้น ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีสลายไขมันเฉพาะจุดแบบทันสมัย ดูแลตัวเองมาดีอยู่แล้ว และอยากเสริมความมั่นใจให้กับรูปร่าง Vaser อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังตามหาอยู่ก็ได้ Issavee Clinic คลินิกที่เชี่ยวชาญด้านการดูดไขมัน พร้อมเป็นตัวเลือกที่จะช่วยทำให้คุณมีรูปร่างที่ดูดีอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยนวัตกรรมการดูดไขมันที่ทันสมัยโดยแพทย์เฉพาะทางด้านการดูดไขมัน Vaser ติดตามผลการรักษาอย่างใส่ใจ เพราะเราอยากให้คุณหุ่นที่ดีและมั่นใจค่ะ